เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
สวัสดีครับ ชอบเขียนชอบเก็บบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ครับ อย่าลืมแวะมาเยี่ยมเยือนกันอีกนะครับ เอส.

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

อะไรเกิดขึ้นกับสมองหลังจากการขาดเลือดอย่างเฉียบพลัน

อะไรเกิดขึ้นกับสมองหลังจากการขาดเลือดอย่างเฉียบพลัน


การฟื้นตัวของสมอง หลังการเกิดอัมพาต สมองจะมีการฟื้นตัวหลังจากเกิดความผิดปกติของหลอดเลือดแดงในสมอง ไม่ว่าจะเป็นตีบ อุดตันหรือแตก จะทำให้สมองขาดเลือดไปเลี้ยงอย่างเฉียบพลัน เซลล์สมองตายหรือหยุดทำงาน ทำให้ร่างกายสูญเสียการทำงาน หรือมีความผิดปกติ การฟื้นตัวแบ่งเป็น 2 ระยะคือ

- การฟื้นตัวของระบบประสาทที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ (Spontaneous Recovery) อาการ บวมของสมองบริเวณที่ขาดเลือดและบริเวณใกล้เคียงจะลดลงทำให้เซลล์สมองบางส่วน เริ่มกลับมาทำงานโดย ผู้ที่มีเลือดออกในสมองจะมีอาการบวมมากกว่า การลดบวมก็อาจใช้เวลามากกว่า เมื่ออาการบวมลดลงก็จะพบว่า ผู้ป่วยจะเริ่มมีการฟื้นตัว เช่น เริ่มขยับร่างกายบางส่วนได้ หลังจากนั้นร่างกายพยายามนำเลือดเข้าไปยังส่วนที่ถูกทำลายและบริเวณรอบๆ อย่างไรก็ตามส่วนที่ถูกทำลายจะมีเซลล์สมองตาย การนำเลือดเข้าไปในบริเวณนี้จะช่วยให้เซลล์สมองบางส่วนกลับมาทำงานใหม่ได้ อีกครั้ง ซึ่งจะเห็นว่าผู้ป่วยจะมีการฟื้นตัวมากขึ้น การฟื้นตัวในระยะแรกๆนี้อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ 2-3 วันแรกจนถึง 8 อาทิตย์ หรืออาจกินเวลานานถึง 4 เดือน

- การฟื้นตัวที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนโครงข่ายระบบประสาท (Brain Re-organization) หรือ เรียกว่าการปรับเปลี่ยนการทำงานของสมอง (Functional Reorganization) ในปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์มีความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของสมองมากยิ่ง ขึ้น ซึ่งพบว่าสมองของคนเรามีการเปลี่ยนแปลงตลอดชีวิตขึ้นอยู่กับประสบการณ์และ การเรียนรู้ ถ้าเราใช้ร่างกายส่วนไหนมาก พื้นที่ของสมองที่ควบคุมร่างกายส่วนนั้นจะขยายเพิ่มขึ้น เช่นคนตาบอดที่ใช้นิ้วมืออ่านอักษรเบลล์ พื้นที่ของสมองส่วนที่ควบคุมการรับความรู้สึกที่ปลายนิ้วจะขยายขนาดมากขึ้น ในทางตรงกันข้ามถ้าเราใช้ร่างกายส่วนไหนน้อยลง พื้นที่ที่ควบคุมจะมีขนาดลดลง เช่นคนที่ขาขาดหรือใส่เฝือกขา สมองส่วนที่ควบคุมขาจะมีขนาดลดลง

จากการวิจัยพบว่าในสมองที่มีพยาธิสภาพ เช่นการขาดเลือดอย่างเฉียบพลัน สมองจะมีการเปลี่ยนแปลงการทำงานไม่เฉพาะซีกที่มีพยาธิสภาพเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในสมองทั้งสองข้าง การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้เกิดขึ้นทั้งด้านกายวิภาค สรีรวิทยา และเคมีของสมอง การเปลี่ยนแปลงนี้ยังเกิดในส่วนอื่นๆของสมองที่อยู่ไกลออกไปจากส่วนที่มี พยาธิสภาพด้วย การเปลี่ยนแปลงนี้ได้แก่ การเปลี่ยนความไวต่อการกระตุ้นของเยื่อหุ้มเซลล์ การงอกปลายประสาทเพื่อสร้างจุดเชื่อมโยงขึ้นใหม่ ไปจนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายระบบประสาทเดิมที่มีอยู่แล้ว เราเรียกการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า เบรนพลาสติกซิตี้ (Brain Plasticity) ดังนั้นการปรับเปลี่ยนการทำงานของสมองหลังการเกิดพยาธิสภาพจะขึ้นอยู่กับ ประสบการณ์และการเรียนรู้ของผู้ป่วยที่ได้รับหลังเกิดพยาธิสภาพ ซึ่งการฟื้นตัวของสมองในระยะนี้อาจใช้เวลานานถีง 7-8 ปี ขี้นอยู่กับการฝีกฝน


ดร. จิล เทเลอร์ นักกายวิภาคศาสตร์ทางสมองในประเทศสหรัฐอเมริกา เล่าถึงประสบการณ์ที่ตนเองเคยมีเส้นเลือดในสมองแตกและทำให้ร่างกายซีกขวา เป็นอัมพาต และได้ศึกษาการฟื้นตัวและเฝ้าดูการพัฒนาสมองของตนเองหลังการเป็นอัมพาต พบว่าใช้เวลานานถึง 7 ปี สมองจึงไม่มีการพัฒนาต่อ ดร. เทเลอร์ กล่าวว่าตามที่วงการแพทย์เข้าใจและมักบอกผู้ที่เป็นอัมพาตว่าหลังจากเกิด อัมพาต 1-2 ปีแล้ว อาการจะไม่ดีขึ้นไปกว่านั้น เป็นการเข้าใจที่ผิดและเป็นการประเมินความสามารถของการเปรับเปลี่ยนการทำงาน ของสมองต่ำเกินไป

จากการวิจัยพบว่า กระบวนการการรักษาทางกายภาพบำบัดนั้นสัมพันธ์กับการปรับเปลี่ยนการทำงานของ เซลล์ประสาทในสมอง และมีผลต่อการฟื้นตัวในการทำกิจกรรมการเคลื่อนไหว ถ้าต้องการให้ผู้ป่วยอัมพาตมีทักษะในการเคลื่อนไหวที่มีประสิทธิภาพจำเป็น ต้องให้มีการใช้งานหรือเคลื่อนไหวร่างกายซีกที่อ่อนแรงให้เร็วที่สุดและให้ มากที่สุด วิธีการรักษาและการออกกำลังกายจะต้องใกล้เคียงหรือเหมือนการเคลื่อนไหวที่ ปกติ เพราะถ้าเรากระตุ้นให้มีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ การสร้างการเชื่อมโยงของโครงข่ายประสาทในสมองก็จะผิดปกติ ซึ่งจะทำให้แก้ไขภายหลังได้ยากหรือบางครั้งแก้ไขให้ปกติไม่ได้เลย ถ้ากระตุ้นให้มีการเคลื่อนไหวที่มีรูปแบบที่ปกติ ระบบประสาทจะสร้างจุดเชื่อมโยงให้มีการเคลื่อนไหวที่ปกติหรือใกล้เคียงปกติ ในที่สุด

ความเชื่อที่ว่าต้องรอให้สมองสั่งงานเองนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะจากการวิจัยพบว่า การอยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไรเลย จะทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า “เรียนรู้ที่จะไม่ใช้” การปรับเปลี่ยนการทำงานจะไม่เกิดขึ้นเพราะขนาดของพื้นที่ในสมองที่ควบคุม ร่างกายส่วนนั้นๆจะเล็กลง เนื่องจากขาดการกระตุ้น บางคนคิดว่า มื่อเซลล์สมองตายไปแล้วจะไม่มีการฟื้นตัว แต่การวิจัยพบว่าสมองของเราสามารถปรับเปลี่ยนการทำงานได้ ดังนั้นการรักษาทางกายภาพบำบัดจะต้องกระตุ้นให้มีการเคลื่อนไหวที่ใกล้เคียง กับการเคลื่อนไหวปกติ

นอกจากนี้แล้วเพื่อให้สมองมีการปรับเปลี่ยนการทำงานหรือพัฒนาให้ได้มาก ที่สุด จำเป็นต้องทำกายภาพบำบัดซ้ำๆอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอเพื่อทำให้ทักษะการ เคลื่อนไหวกลายเป็นอัตโนมัติ ซี่งจะทำให้ผู้ป่วยสามารถนำการเคลื่อนไหวไปใช้ในสภาวะแวดล้อมต่างๆและใน สถานการณ์ต่างๆได้ ทำให้ผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตสามารถใช้ชีวิตอย่างเป็นอิสระและมีคุณภาพชีวิตที่ ดีขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น