เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
สวัสดีครับ ชอบเขียนชอบเก็บบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ครับ อย่าลืมแวะมาเยี่ยมเยือนกันอีกนะครับ เอส.

วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2554

สัมภาษณ์พิเศษ: อาจารย์ปริญญา ตันสกุล

สัมภาษณ์พิเศษ: อาจารย์ปริญญา ตันสกุล บุรุษผู้นำสาส์นจาก "จิตจักรวาล" สู่ชาวโลก




หาก จะเอ่ยชื่อของบุรุษท่านนี้ อาจารย์ปริญญา ตันสกุล หลายคนอาจจะนึกถึงหนึ่งในอดีตผู้นำนักศึกษายุค 14 ตุลา แต่วันนี้ อาจารย์เป็นที่รู้จักในนาม นักวิทยาศาสตร์พฤติกรรม มีความเชี่ยวชาญในการพูดบรรยาย และเขียนหนังสือเกี่ยวกับการแก้ไขพฤติกรรมที่บกพร่องของบุคลากร อาจารย์ปริญญาเป็นวิทยากรอำนวยการ ของสถาบันพัฒนาพฤติกรรมมนุษย์ HMDC รับเชิญจากองค์กร ทั้งภาครัฐบาลและเอกชนทั่วประเทศ ไปบรรยาย ฝึกอบรม สัมมนา ฝึกอบรมปฏิบัติการเพื่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมนุษย์ ผ่านจิตสำนึก ด้วยวิธีที่ท่านคิดค้นขึ้นมาเรียกว่า "ไซโคโชว์" แต่แรงจูงใจที่พาเราไปพบ และสัมภาษณ์อาจารย์ปริญญาในครั้งนี้ มิใช่เรื่องที่กล่าวมาข้างต้น หากเป็นเรื่องของการเตือนภัยไว้ล่วงหน้าเกี่ยวกับคลื่นยักษ์สึนามิ โดยการเขียนหนังสือชื่อ "11:11 วันเวลาที่สิบเอ็ด รหัสแห่งหายนะโลก" พิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2544 และในปีเดียวกันนั้น อาจารย์ปริญญาก็ได้จัดคณะทัวร์ลงไปภาคใต้ ทั้งเกาะภูเก็ต พังงา ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า สุราษฎร์ธานี เพื่อบอกข่าวร้ายนี้ให้ชาวใต้ได้ทราบและเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับมัน แต่กลับไม่มีใครเชื่อหรือให้ความสนใจ จนสองปีผ่านไป เหตุการณ์นั้นก็ได้เกิดขึ้นจริงตามที่เป็นข่าวไปทั่วโลก มีคำถามว่า อาจารย์ปริญญาทราบได้อย่างไรว่าจะเกิดสึนามิในอนาคตข้างหน้า?... คำตอบที่อาจารย์ปริญญาสละเวลามานั่งอธิบายอย่างเป็นขั้นเป็นตอนให้เราทราบ อยู่ในบรรทัดต่อไปนี้...

วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2554

2012 – Why changes are happening ทำไมการเปลี่ยนแปลงต่างๆ จึงกำลังจะเกิดขึ้นในปี 2012






2012 – Why changes are happening
ทำไมการเปลี่ยนแปลงต่างๆ จึงกำลังจะเกิดขึ้นในปี 2012
************************************************************************ 
จิตอิสสระ คำนำ : บทความนี้ได้ทำการแปลจากคุณ chaiyut ที่ Web พลังจิต 
ยุค ใหม่หรือที่เราจะเรียกว่า ยุดทองแห่งทางจิตวิญญาณ  เป็นยุดที่โลกและทุกดวงจิตที่อยู่ในโลกและจักวาลจะทำการปรับ  เพื่อเป็นความรู้ให้แก่ทุกคน ขอให้ทุกคนที่ได้รับข่าวสารจงมองว่า บทความนี้ เป็นความรู้บทหนึ่ง และจงอย่าตัดสินใจว่าบทความจริง หรือ ไม่จริง ใช่ หรือไม่ใช่ บุญหรือ บาป ขอจงวางจิตเป็นกลางนะครับ
*****************************************************************************
ผู้ รับการสื่อสาร: นางซูซาน วาร์ด (Susanne Ward)
สถานที่: ประเทศสหรัฐอเมริกา
วันที่สื่อสาร: วันที่ 31 ธันวาคม 2007
ข้อความจากการสื่อสารทางโทรจิตของนายแมทธิว วาร์ด (Matthew Ward)
ที่มา: December 31, 2007
ตอนที่ 1
บทที่ 12: ปี 2012
พระเจ้า: ก็ได้ ซูซี่ งั้นเราก็มาพูดถึงเรื่องนี้กันเถอะ เพราะว่ามันกำลังปรากฏขึ้นลางๆและชัดขึ้นทุกวันๆแล้วสุดท้ายของปี 2011 ไป และเริ่มเข้าสู่วันแรกของปี 2012 แล้ว?
อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อเธอผ่านพ้นวัน
เกี่ยวกับปีนั้น ชาวโลกทั้งหลาย ต่างคนต่างก็มีความคิดไปต่างๆนาๆ
ตั้งแต่คิดว่ามันจะเป็นปีที่ทรงคุณค่าอย่างมาก ไปจนถึงคิดว่ามันจะเป็นวันสิ้นโลกก็มี
และเพราะว่าพวกที่มีความคิดแบบหลังนี่แหละ ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว
ฉันถึงอยากจะเริ่มต้นจากตรงนั้นก่อน
ตอนที่ 2
เรียงความเรื่องปี 2012 โดยแมทธิว
(Essay on 2012, by Matthew)

เพราะถ้าจะกล่าวถึงปี 2012 ให้เข้าใจได้ง่ายๆหละก็ ผมก็จะบอกว่า ปี 2012
มันจะเป็นปีที่ดาวเคราะห์โลกเริ่มเข้าไปสู่ “ยุคทอง” (Golden Age) และในช่วงระยะเวลาระหว่างนี้
จะเป็นช่วงเวลาแห่งการส่งผ่าน (Transition) วิถีชีวิตเก่าที่พวกคุณเคยรู้จักและคุ้นเคย
ไปสู่วิถีชีวิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสอดคล้องกลมกลืนกัน กับธรรมชาติอย่างแท้จริง
ใครก็ตามที่เข้าใจว่าปี 2012 จะเป็นปีแห่งการสิ้นสุดของความมืด นี่ยังไม่ต้องพูดถึงความเข้าใจที่ว่า
มันจะเป็นวันสิ้นโลกเลยนะครับ พวกเขาเหล่านั้นได้แปลความหมายของมันผิดไป
ทุก สิ่งทุกอย่างในจักรวาล คือพลังงานที่กำลังสั่นสะเทือนอยู่ในระดับคลื่นความถี่ใดความถี่หนึ่ง
และเมื่อตอนที่ดาวเคราะห์โลกยังอยู่ในสภาพที่มีสุขภาวะสมบูรณ์ เหมือนตอนแรกเริ่มของเธอ
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พวกคุณเองก็รู้จัก แต่แค่ลืมมันไปหมดแล้วเท่านั้นเอง
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่อาศัยอยู่บนโลก มีการสั่นสะเทือนอย่างสอดคล้องกลมกลืนกัน

แต่เมื่อถึงตอนที่ดาวเคราะห์โลกกำลังใกล้ตายตั้งแต่ 60 กว่าปีที่แล้ว มันไม่เหลือความสอดคล้องกลมกลืนกันอีกเลย
ไม่เหลือความสมดุลของธรรมชาติอยู่เลย และมันแทบจะไม่มีแสงสว่างมากพอ
ที่จะค้ำจุนสิ่งมีชีวิตใดๆบนโลกใบนี้ได้เลย รวมถึงตัวดาวเคราะห์โลกเองด้วย
แต่ว่าปี 2012 ที่ว่านั้น ก็ไม่ได้มีกรอบของระยะเวลาถูกต้องแม่นยำโดยสิ้นเชิง ตามที่ได้ถูกพยากรณ์ไว้อีกต่อไปแล้ว
และปฏิทินของพวกคุณก็จะไม่มีความถูกต้องแม่นยำอีกต่อไปแล้ว

แต่ในตอนนี้ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ก็คือ ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ กำลังได้รับความช่วยเหลือ
ในการทำให้พลังงานของเธอมีเสถียรภาพ มันคือการเปลี่ยนรูปแบบของดาวเคราะห์โลก
มันคือการกลับไปเป็นหนุ่มเป็นสาวใหม่อีกครั้ง และกลับคืนสู่ความสมดุลใหม่อีกครั้งของดาวเคราะห์โลก
ซึ่งมันจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ลงในปี 2012
เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายเหล่านี้
กำลังจะทำให้กาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงของพวกคุณหายไป

เพราะฉะนั้น พวกคุณจะสัมผัสได้ว่า กาลเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เร็วขึ้นและเร็วขึ้นเรื่อยๆ
นั่นเป็นเพราะอิทธิพลของพลังงานจากระนาบที่สูงกว่าที่พวกคุณกำลังอาศัยอยุ่ ในขณะนี้

ยิ่งดาวเคราะห์โลกเดินทางเข้าไปใกล้สภาวะปรมัตถ์ (continuum) มากเท่าไหร่
ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยิ่งจะถูกเร่งให้เร็วขึ้นเท่านั้น
หรือถ้าจะพูดให้ถูกต้อง ตรงตามระดับสติสัมปชัญญะของพวกคุณ ที่จะเข้าใจได้มากขึ้นกว่านี้ก็คือ
สภาวะปรมัตถ์ คือสภาวะที่ไร้กาลเวลาอย่างแท้จริง, เป็นมิติที่เป็นนิรันดร (eternity) และไม่มีที่สิ้นสุด (infinity)

วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554


ชอบงานโฆษณาชิ้นนี้ครับ สร้างแรงบรรดาลใจได้ดีเลยทีเดียว

วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2554

ความลับเหนือโลก ในมุม 'ดร.เมล กิลล์’

ความลับเหนือโลก ในมุม 'ดร.เมล กิลล์’


ความลับเหนือโลก ในมุม 'ดร.เมล กิลล์’

โดย : เพ็ญลักษณ์ ภักดีเจริญ

ภาพโดย : ฐานิส สุดโต

เขาเป็นนักพูดสร้างแรงจูงใจ นักจิตบำบัด และนักเขียน มีคนบอกว่าเขารู้ความลับเหนือโลกในช่วงเวลาหลังความตาย19นาที อะไรคือความลับที่เขาล่วงรู้...
“สิ่งที่ผมค้นพบ ก็คือ ความจริงที่มีอยู่แล้ว ตั้งแต่ก่อนสมัยพระพุทธเจ้า พระองค์ได้ค้นพบความจริง และกฎ 7 ข้อที่ผมค้นพบ ถ้านำมาใช้กับชีวิต จะทำให้เรามีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ก็ต้องระวัง” ดร.เมล กิลล์ เล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดี

หลายคนคงได้ยินข่าวคราวและชื่อเสียงของเขาอยู่บ้าง เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักพิมพ์ดีเอ็มจีได้เปิดตัวหนังสือ สุดยอดเดอะซีเคร็ต เขียนโดยดร.เมล กิลล์ นักจิตบำบัดและนักพัฒนามนุษย์ ที่ได้รับเชิญไปบรรยายกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบันเขาเป็นที่ปรึกษาของซีอีโอกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาหลาย แห่ง

นอกจากเดินทางมาเปิดตัวหนังสือ ยังมี "ดินเนอร์ทอล์ค" ที่นักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทยให้ความสนใจ ใน "ความลับ" ที่เขาเอามาแบ่งปัน


1.
หากตั้งคำถามว่า ทำไมมนุษย์พยายามค้นหาความลับของจักรวาล ในความคิดเห็นของดร.เมล กิลล์ มองว่า สิ่งที่เขาค้นพบเป็นเรื่องธรรมดาๆ ถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ คุณมีสิทธิที่จะมีความสุข ทั้งหมดอยู่ที่ความคิดและความเชื่อ
สิ่งที่เปลี่ยนวิธีคิดของเขาทั้งชีวิต คือ ความตายในช่วงเวลา 19 นาที เขาโดนตัดแขนซ้าย เนื่องจากตอนอายุ 19 ปีเขาเดินทางไปปีนเขาที่มาเลเซียและประสบอุบัติเหตุตกเขา แขนหัก บอบช้ำมาก ได้เพื่อนๆ ช่วยกันแบกออกมาจากป่า แล้วเดินทางมารักษาตัวที่สิงคโปร์
"ตอนนั้นหัวหมุนไปหมด เจ็บปวดมาก จนไม่รู้จะบอกยังไง ตอนผ่าตัดผมเห็นทุกอย่าง เห็นหมอและพ่อแม่กำลังร้องไห้ พวกเขาตัดแขนซ้ายผมบริเวณเหนือข้อศอก เพื่อสกัดเนื้อตายเน่าที่ลุกลาม ผมตายแล้ว ตับไตไม่ทำงาน รู้สึกเหมือนตัวเองลอยขึ้นไปสู่เพดาน เห็นเหมือนอุโมงค์แสงสว่าง และเห็นคนๆ หนึ่งบอกผมว่า คุณต้องกลับไปนะ”
19 นาทีที่ตายไปแล้ว และฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ดร.เมลเปลี่ยนวิธีคิดและการใช้ชีวิต เพราะได้เรียนรู้บางอย่าง
"มิติหลังความตายในช่วง 19 นาที ทำให้ผมเปลี่ยนไป ผมยกตัวอย่างเรื่องหนึ่ง ตอนผมอายุเจ็ดขวบ มีเพื่อนอายุ 9 ปีเกเรมาก ผมก็เลยผลักเพื่อนคนนั้นตกบันไดเลือดไหล ความทรงจำอีกด้านหนึ่งของผมบอกว่า เลือดของเพื่อนคนนั้นอยู่ในตัวผมด้วย เหมือนผมเป็นคนที่เจ็บปวด สิ่งที่ผมอยากบอกก็คือ การกระทำของเราแม้จะเล็กน้อย แต่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตคนอื่นได้ แทนที่เด็กคนนั้นจะเติบโตเป็นหมอ ปรากฎว่าเปลี่ยนมาเป็นพระ”
เรื่องที่ดร.เมล เล่าให้ฟัง คงต้องมองในเชิงนามธรรม เพราะเสี้ยววินาทีแห่งความตายในวัยหนุ่ม ทำให้เขาได้ค้นหาความหมายของชีวิตเป็นเวลา 40 ปี เขาเรียนจบปริญญาเอกด้านจิตบำบัด ทำงานให้คำปรึกษาบุคคล และเป็นที่ปรึกษาผู้บริหารระดับสูง รวมถึงจัดรายการวิทยุ เขียนหนังสือด้านจิตวิทยากว่า 60 เล่ม กำกับและสร้างภาพยนตร์ "สุดยอดเดอะซีเคร็ต"

2.

ความจริงที่ศาสดาหลายศาสนาค้นพบบนโลกใบนี้ ใช่ว่า...ทุกคนจะเข้าถึงได้ง่ายๆ จึงมีคนพยายามไขความลับของจักรวาล เรื่องนี้ ดร.เมล กิลล์ มองว่า ความจริงเหล่านี้มีอยู่บนโลก แต่คนเข้าไม่ถึงเท่านั้นเอง

“คนที่มีประสบการณ์ใกล้ตาย ไม่ใช่ผมคนเดียว ยังมีผู้ป่วยที่ใกล้ตายจำนวนมาก เหมือนเสียชีวิตไปแล้ว แต่แพทย์ดึงกลับมาได้ ผมไม่อาจบอกได้ว่า สิ่งที่ผมค้นพบเป็นแนวคิดพุทธ คริสต์หรือฮินดู แต่เป็นประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้น ทำให้ผมได้เรียนรู้ธรรมชาติทั้งคน ต้นไม้ ดอกไม้”

ใช่ว่า...ชีวิตหลังความตายไม่กี่นาทีจะเปลี่ยนเขาในทันที เขาต้องค้นหา จึงเป็นทั้งนักเดินทาง นักอ่านตัวยง อ่านแม้กระทั่งปรัชญาเฮอร์เมติกของชาวอียิปต์โบราณ กฎฟิสิกส์ ธุรกิจ ปรัชญาและจิตวิทยา ฯลฯ และมีบางช่วงเขาก็ไม่ต่างจากคนอื่น ท้อแท้ สิ้นหวัง กลายเป็นคนพิการ สูญเสียครอบครัว เพื่อนและธุรกิจ
“ผมไม่ได้นับถือศาสนาใด ผมมีความเชื่อว่า เราทุกคนเป็นพี่น้องเผ่าพันธุ์เดียวกัน ผมมั่นใจว่า พระพุทธเจ้าก็ไม่ใช่พุทธ พระองค์ไม่ได้ให้ใครมานับถือตัวตน แต่ให้นับถือสิ่งที่ตรัสรู้หรือแนวทางปฎิบัติ พระองค์ไม่ได้สนใจว่าเป็นพุทธหรือไม่“