เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
สวัสดีครับ ชอบเขียนชอบเก็บบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ครับ อย่าลืมแวะมาเยี่ยมเยือนกันอีกนะครับ เอส.

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

เจ้าแม่กาลี: เทวีผู้ปราบกาลียุค

จ้าแม่กาลี: เทวีผู้ปราบกาลียุค


จากหนังสือชื่อ เจ้าแม่กาลี: เทวีผู้ปราบกาลียุค
โดย อาจารย์ ดร.จิตตาภา สารพัดนึก ไชยปัญญา
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์



ความเชื่อและศรัทธาที่ชาวฮินดูมีต่อเทพเจ้านั้นหนักแน่นและมั่นคงนับแต่อดีต ตราบจนปัจจุบัน โดยชาวฮินดูเชื่อว่าโลกนี้ดำเนินไปได้ด้วยอำนาจของตรีมูรติ คือเทพเจ้าทั้งสามองค์อันได้แก่ พระพรหมผู้สร้าง พระวิษณุผู้รักษา และพระศิวะผู้ทำลาย นอกจากเทพทั้งสามที่ชาวฮินดูนับถือแล้วยังมีเทวีปรากฏขึ้นในฐานะชายาของเทพ เหล่านี้ ได้แก่ เทวีสรัสวดีชายาของพระพรหม เทวีลักษมีชายาของวิษณุเทพ และเทวีปารวตีชายาของศิวเทพ เทวีทั้งสามนี้มีฤทธานุภาพใกล้เคียงกับเทพเจ้าเลยทีเดียว
ในครั้งนี้จะขอ แนะนำให้ท่านผู้ฟังได้รู้จักกับอวตารปางหนึ่งของชายาพระศิวะ ซึ่งมี
ผู้ นับถือกันอย่างมากโดยเฉพาะในกัลกัตตาอดีตเมืองท่าของอินเดียนั่นคือ เจ้าแม่กาลี โดยปกติแล้วชายาของพระศิวะมีพระนามที่แตกต่างกันไปตามท้องถิ่นของผู้นับถือ เช่น ปารวตี อุมาเทวี และเจ้าแม่กาลี เป็นต้น
เจ้าแม่กาลีเป็นอวตารปาง หนึ่งของชายาพระศิวะที่มีผู้นับถือเป็นอย่างมากในเมือง
กัลกัตตา ในเมืองนี้มีวัดเจ้าแม่กาลีอยู่บริเวณ “กาลีฆัต” ซึ่งแปลว่าท่าไปสู่ที่เจ้าแม่กาลี ภายในโบสถ์มีรูปเจ้าแม่กาลีประดิษฐานอยู่ วัดนี้ถือเป็นศูนย์รวมใจของชาวเบงกอลที่นับถือศาสนาฮินดูอย่างแท้จริง ด้วยความศรัทธาที่ชาวฮินดูในกัลกัตตามีต่อเจ้าแม่กาลีจึงทำให้เกิดเทศกาล บูชาเจ้าแม่กาลีขึ้นในราวเดือนตุลาคมของทุกปี ในวันงานมีการจัดซุ้มต่างๆเพื่อบูชาเจ้าแม่กาลี มีการแสดงนิทรรศการแสงสี เสียง ในวันนั้นมีเสียงสวดมนต์ดังไปทั่วทั้งเมือง ช่วงกลางคืนประชาชนก็จะแต่งตัวสวยงามออกจากบ้านเพื่อไปบูชาเจ้าแม่กาลีใน ซุ้มที่มีรูปเจ้าแม่กาลีปางปราบอสูรประดิษฐานอยู่ โดยรูปปั้นของพระนาง อยู่ในท่ายืนยกขาขึ้นข้างหนึ่งแลบลิ้นที่เปื้อนเลือด มี 10 เศียร 10 พระกร 10 พระบาท มีศีรษะมารห้อยคอต่างพวงมาลัยและมีนิ้วมือมารประดับไว้รอบเอว
เหตุ ที่ประชาชนให้ความเคารพศรัทธาเจ้าแม่กาลีก็เนื่องมาจากพระนางเป็นเทวี
ผู้ ปราบอสูรและนำความสงบมาสู่โลก
ตามตำนานกล่าวไว้ว่าครั้งหนึ่งพวกอสูรได้รับพรวิเศษจาก พระพรหม คือ ให้เป็นอมตะ ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ด้วยความหลงอำนาจพวกอสูรจึงระรานและเกี้ยวพาเหล่านางฟ้าอย่างไม่เกรงใจเหล่า เทวดาจนทำให้เหล่าเทวดาเดือดร้อนและได้นำเรื่องนี้ไปร้องเรียนพระพรหม พระพรหมจึงมีบัญชาให้พระศิวะผู้เป็นเทพเจ้าแห่งการทำลายเป็นผู้ไปกำราบเหล่า อสูร แต่พระชายาของพระศิวะเป็นผู้อาสาปราบเหล่าอสูรในครั้งนี้แทน โดยชายาของศิวเทพได้อวตารเป็นเจ้าแม่กาลีและได้ทำสงครามกับเหล่าอสูรเป็น เวลานานเพราะในขณะสู้รบกันนั้นถ้าเลือดของอสูรหยดลงพื้นดินเพียงหยดเดียวก็ จะเกิดอสูรขึ้นหนึ่งตน ดังนั้นพระนางจึงต้องหาวิธีที่จะทำให้เลือดของ

- 2 -

อสูรที่เกิดจากการสู้รบไม่ตกลงสู่พื้น ในที่สุดพระนางจึงตัดสินใจแลบลิ้นของตนรับเลือดเหล่าอสูรตลอดระยะเวลาที่พระ นางทำสงครามกับเหล่าอสูรนั้น และด้วยวิธีนี้เองที่ทำให้พระนางสามารถปราบอสูรได้สำเร็จ
จากตำนานที่ กล่าวมานี้จึงทำให้ชายาพระศิวะในอวตารของเจ้าแม่กาลีแลบลิ้นที่
เปื้อน เลือดมีศีรษะมารห้อยคอต่างพวงมาลัยและมีนิ้วมือมารประดับไว้รอบเอว ซึ่งก็คือเลือด ศีรษะ และนิ้วมือของเหล่าอสูรที่กล่าวไว้ในตำนานนั่นเอง นอกจากรูปของเจ้าแม่กาลีที่เกิดขึ้นจากตำนานแล้ว การบูชาเจ้าแม่กาลีด้วยเลือดสดๆก็เกิดขึ้นจากตำนานนี้เช่นกัน นั่นคือหลังจากที่เจ้าแม่กาลีปราบอสูรได้แล้วประชาชนก็จัดงานฉลองเพื่อเป็น การรำลึกถึงพระคุณของพระนางโดยในการเซ่นบวงสรวงโดยนำเลือดสดๆไปบูชา กล่าวกันว่าในยุคแรกๆมีการนำหญิงพรหมจารีไปทำพลีกรรมโดยนำเลือด บริสุทธิ์ในลำคอไปบูชาเจ้าแม่กาลี แต่เมื่อเวลาล่วงไปถึงช่วงที่อังกฤษเข้าปกครองอินเดียได้สั่งห้ามไม่ให้นำ มนุษย์มาใช้ในการบูชา จึงทำให้การบูชาเจ้าแม่กาลีในปัจจุบันนี้เหลือเพียงการนำแพะมาใช้ในการบูชา แทน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเราจะได้กลิ่นคาวของเลือดแพะแทนที่กลิ่นหอม ของธูปและดอกไม้เมื่อเข้าไปในวัดที่มีการบูชาเจ้าแม่กาลี
การทำลายชีวิต หนึ่งเพื่อแสดงความศรัทธาต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งอาจจะดูไม่ถูกต้องนักใน
สาย ตาของหลายๆท่านที่ได้รับฟังเรื่องราวนี้ แต่มีอีกสิ่งที่เราต้องยอมรับก็คือความเชื่อและความศรัทธาที่ชาวฮินดูมีต่อ เทพเจ้าทั้งหลายของพวกเขา รวมถึงความเชื่อในเรื่องอีกหลายๆเรื่องที่เรานึกไม่ถึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำ ให้กระแสของวัฒนธรรมตะวันตกไม่สามารถเข้าไปแทรกซึมอยู่ในวัฒนธรรมของชาว ฮินดูได้อย่างง่ายดายเหมือนกับการที่วัฒนธรรมตะวันตกกำลังแทรกซึมอยู่ใน ประเทศทางตะวันออกอีกหลายๆประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจจะมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย



*********************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น