เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
สวัสดีครับ ชอบเขียนชอบเก็บบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ครับ อย่าลืมแวะมาเยี่ยมเยือนกันอีกนะครับ เอส.

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

พระพรหม

พระพรหม


พระพรหม





ครู บาอาจารย์ที่ผมเคารพนับถือหลายๆท่าน เน้นเรื่องของ “ความกตัญญู ต่อพ่อแม่เป็นที่สุด” ...ผมอยากจะเล่าเหตุการณ์จริงๆให้ฟังครับ...เมื่อครั้งผมยังละอ่อนและ ติดตามเพื่อนๆไปเที่ยวเชียงใหม่ พวกเราได้เข้าไปเที่ยวที่วัดอรัญวิเวก (บ้านปง) ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตงได้มีโอกาสกราบนมัสการ “ท่านพระอาจารย์เปลี่ยน ปญญาปทีโป” ...ในช่วงจังหวะหนึ่งของการสนทนาผมจำได้แม่นยำเลยว่า

“ไม่ ว่าจะมีเรื่องน้อยใจอะไรก็แล้วแต่ ห้ามไม่ให้ทะเลาะกับพ่อแม่ ไม่ให้ทำหน้ายักษ์ หน้ามารเข้าใส่พ่อแม่ หรือในบางเรื่องที่เราถูกก็ห้ามต่อว่าพ่อแม่อย่างเอาเหตุเอาผลอย่างเด็ดขาด ...เพราะในชีวิตประจำวันของเรานั้น บางครั้งกับเพื่อนฝูงหรือเพื่อนร่วมงานเขากลั่นแกล้งเราทุกอย่างสารพัด เรายังต้องทนระงับโทสะเอาไว้ บางทียังไม่รู้เรื่องอะไรเลยเรายังต้องอดทนเก็บเอาความโกรธเหล่านั้นไว้ในใจ แล้วกลับพ่อแม่เราที่มีบุญคุณต่อเราอย่างที่สุด เหนือกว่าเจ้านายผู้บังคับบัญชาทั้งหมด ทำไมเราจะยอมทนยอมยกให้พ่อแม่ไม่ได้ แค่บุญคุณที่ท่านได้ให้เราเกิดมาอย่างเดียวก็ตอบแทนไม่หมดอยู่แล้ว”….ฟัง แล้วได้ใจเลยครับ

และเมื่อผมตัวโต ขึ้นมาอีกหน่อย จำได้ว่าในวันเกิดผมได้ขับรถไปกราบ “ท่าน หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร” จังหวัดเพชรบุรี หะแรกพอท่านทราบว่าเป็นวันเกิดของผม ท่านบอกจะให้ของขวัญ ผมละดีใจอย่างมากนึกว่าตัวเองจะได้รับพระจากท่าน เพราะอะไรเหรอครับเพราะท่านหลวงพ่อจ่าง ตามความเชื่อของนักนิยมพระเครื่อง เชื่อกันว่าท่านเป็น “พระเกจิที่สำเร็จอภิญญา” ดังนั้นการที่เราจะได้รับของจากท่านถือเป็นบุญแก่ตัวเราที่เดียว ….แต่แล้วฝันของผมก็ต้องสลายเมื่อท่านสั่งให้พระที่คอยดูแลท่านอยู่ให้ไป หยิบเอา “ไม้ตะพต”ของท่านออกมา จังหวะนั้นท่านหันมามองที่ผมแล้วพูดด้วยเสียงดังๆ ดุๆ ว่า
“ช่วย หยิบไม่ตะพตมาหน่อย ข้าจะเอาเลือดหัวมันซักหน่อย ไอ้คนนี้วันเกิดไม่ยอมอยู่กราบไหว้พ่อแม่ มึงรู้มั๊ยพ่อแม่เป็นพระพรหมของพวกมึงเลยนะโว๊ย”

พอเห็นผมทำท่าตกใจ ท่านก็หัวเราะเสียงดังๆ.....ซึ่งจริงๆแล้วท่านเพียงแต่ดุผมเท่านั้น ไม่ได้จะเอาไม้ตะพตมาตีหัวผมจริงๆ และในที่สุดท่านก็มอบพระมาให้ผมรวมไปถึงฝากมาให้คุณพ่อ คุณแม่ของผมด้วย...

ผมออกจากวัดเขื่อน เพชรอย่างใจระทึก...รีบขับรถต่อเพื่อที่จะ ไปกราบ “ท่านหลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง” ขณะนั้นทางเข้าวัดตาลกงยังคงมีสภาพเป็นหลุมเป็นบ่ออยู่ ชั่งใจว่าจะไม่เข้า...แต่ในที่สุดครับ “ความโลภก็เข้าครอบงำความกลัว” ซึ่งในเวลาไม่นานผมก็มานั่งเสนอหน้าอยู่ตรงหน้าท่านหลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง...สนทนากับท่านไปซักพัก พอท่านทราบว่าเป็นวัดเกิด ท่านก็ให้พรผมและกำชับกับผมว่า....
“ต่อ ไปนี้ทุกวันเกิด ให้ผมกราบไหว้พ่อแม่ เมื่อพ่อแม่ให้พรเรา พรนั้นแหละประเสริฐสุด ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าที่ท่านให้ผมซะอีก ท่านย้ำคำพูดว่าพรของพ่อแม่ เป็นเช่นพรของพระพรหม ยิ่งใหญ่และมหาศาลนัก”

ที่ผมเล่ามาทั้งหมด นี้ เพื่อต้องการจะบอกว่า ท่านใดที่นิยมบูชาพระพรหม ไม่ใช่สิ่งที่ผิดแต่ประการใด เพราะผมเองก็บูชาท่านเหมือนกันและมีเหรียญพระพรหมที่ครูบาอาจารย์ของผมได้ สร้างขึ้นมาติดตัวอยู่เป็นประจำ แต่ทั้งนี้การบูชาพระพรหมก็อยากให้ ได้บูชาไปถึงคุณบิดา คุณมารดาด้วย พระคุณของพ่อแม่มีมากล้นเหลือคณานับ ..ลอง คิดซิครับครูบาอาจารย์ที่ผมเล่าให้ฟังข้างต้นทั้งสามองค์ ท่านเป็น “พระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบขนาดไหน”..หรือ แม้กระทั่ง “พระพุทธองค์” ท่านก็ยังทรงยกย่องว่า “พ่อแม่เป็นท้าว มหาพรหมของบุตร”
ครับ..คนเราบูชากราบไหว้รูปอะไรๆก็ได้ตั้งมากมาย แต่มักจะละเลยรูปพ่อ รูปแม่...ผู้เป็นพระพรหมแท้ๆ ไปได้...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น